เมื่อเกิดไฟไหม้เราควรทำอยางไร

วิธีเอาตัวรอดจากเพลิงไหม้และการใช้ถังดับเพลิง

เมื่อเกิดไฟไหม้เราควรทำอยางไร

ในสถานการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้นได้อย่างไม่คาดคิด ความสามารถในการเอาตัวรอดเป็นสิ่งที่ทุกคนควรรู้และฝึกฝนไว้

เพื่อป้องกันการสูญเสียชีวิตและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น การรู้วิธีการเอาตัวรอดอย่างถูกต้อง จะช่วยเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิต บทความนี้จะแนะนำขั้นตอนการเอาตัวรอดจากไฟไหม้

3 องค์ประกอบของไฟ

วิธีเอาตัวรอดเมื่อเกิดเพลิงไหม้ และการใช้ถังดับเพลิง

1. เชื้อเพลิง มีด้วยกันอยู่ 3 สถานะ แต่เชื้อเพลิงที่มีสถานะเป็นของแข็งและของเหลวต้องได้รับความร้อนถึงจุด จุดหนึ่งซึ่งเรียกว่า จุดวาปไฟหรือจุดคายไอ ซึ่งหมายถึงเชื้อเพลิงอยู่ในสถานะเป็นไอหรือเป็นก๊าซนั้นเอง และพร้อมที่จุดติดเป็นไฟ

2. ออกซิเจน ที่อยู่ในบรรยากาศมีอยู่ 21 % แต่ออกซิเจนที่ใช้ในการจุดติดของไฟต้องมีอยู่ในบรรยากาศ ไม่ต่ำกว่า 16% จึงจะทำให้เกิดการจุดติดขึ้นได้ 

3. ความร้อน คือความร้อนที่ไปยกอุณหภูมิจากจุดวาปไฟให้ถึง จุดติดไฟ

องค์ประกอบของไฟ มี 3 องค์ประกอบ การกำจัดไฟ ต้องกำจัดอย่างน้อย 1 ปัจจัยออกไปจากวงจร ไฟก็จะดับ

ยกตัวอย่างเช่น

กระทะที่เราทอดน้ำมันอยู่เกิดไฟไหม้ เราจะมีขั้นตอนในการดับไฟได้อย่างไร  

  • ตั้งสติ
  • ปิดวาล์วแก๊ส >> เพื่อลดความร้อนที่จะไปทำให้น้ำมันไฟลุกขึ้น
  • ใข้ถังดับเพลิง ชนิด K จะมีบอกอยู่ข้างถัง หรือ
  • ใช้ผ้าชุบน้ำปิดให้หมาดคลุมไปบนกระทะ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ไฟจะมอดดับไปเอง หรือ
  • เอาฝาหม้อคลอบกระทะ ให้มิด หรือ
  • เทน้ำมัน >> เพื่อทำให้น้ำมันเย็นตัวลง

ข้อห้าม ห้ามเอาน้ำดับไฟบนกระทะเด็ดขาก เพราะจะเป็นการโหมเปลวไฟให้ลุกมากขึ้น

กรณีควบคุมเพลิงไม่ได้ ให้โทรสายด่วน 199

สายด่วนเพลิงไหม้ 199

5 ประเภทของเชื้อเพลิง

วิธีเอาตัวรอดเมื่อเกิดเพลิงไหม้ และการใช้ถังดับเพลิง

 โดยทั่วไปแบ่งชนิดของไฟตามลักษณะและปฏิกิริยาในการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงตามมาตรฐานของสมาคมป้องกันอัคคีภัยของสหรัฐอเมริกา (National Fire Protection Association : NFPA) จะมีปรากฏในข้างถังดับเพลิง ว่าสามารถดับไฟประเภทไหนได้บ้าง

          ไฟประเภท A (Class “A”)  เป็นการเผาไหม้ที่เกิดจากเชื้อเพลิงธรรมดาโดยทั่วไป  เช่น  ไม้  กระดาษ  ผ้า  พลาสติก  ฯลฯ  เชื้อเพลิงเหล่านี้มีลักษณะ  และปฏิกิริยาในการเผาไหม้  โดยการคายไอออกมาตามผิวโดยที่เนื้อแท้ของเชื้อเพลิงยังไม่แปรสภาพเป็นของเหลว

          ไฟประเภท B  (Class “B”)  เป็นการเผาไหม้ที่เกิดจากเชื้อเพลิงที่เป็นสารไอโดรคาร์บอนทุกชนิด เช่น ก๊าซธรรมชาติ  ก๊าซหุงต้ม (LPG)  น้ำมันที่ใช้กับรถยนต์ยางมะตอย  พาราฟิน  ตัวทำลายต่าง ๆ  เป็นต้น  โดยที่มีลักษณะของการลุกไหม้โดยเป็นก๊าซหรือของเหลวที่ขับไอออกมา  ถ้าเป็นลักษณะแข็งตัวก็จะหลอมเหลวแล้วคายไอออกมา

          ไฟประเภท C  (Class “C”)  เป็นการเผาไหม้ที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าที่เกิดจากอาร์คสปาร์ค  การใช้ไฟฟ้าเกินกำลัง  เมื่อเกิดการเผาไหม้ยังมีกระแสไฟฟ้าอยู่ในอุปกรณ์ไฟฟ้านั้น  โดยกระแสไฟฟ้ายังไม่ได้ถูกตัดออก  แต่ถ้าหากตัดกระแสไฟฟ้าออกแล้วสิ่งเหล่านี้ก็คือ  เชื้อเพลิง “A” “B” หรือ “D” นั่นเอง

          ไฟประเภท D  (Class “D”)  เป็นการเผาไหม้ที่เกิดจากพวกโลหะที่ลุกไหม้และให้ความร้อนสูง  พวกวัตถุระเบิด  พวกที่ทำปฏิกิริยากับน้ำได้  เช่น  แมกนีเซียม (Magnesium) ,  โซเดียม  (Sodium)  ,  ไทเทเนียม (Titanium) , โปรแตสเซียม (Potassium)  เป็นต้น  ลักษณะการลุกไหม้ของประเภท “D” นี้จะให้ความร้อนสูงมากทำให้เกิดการลุกลามอย่างรวดเร็วบางครั้งเกิดการระเบิดขึ้นและเชื้อเพลิงบางชนิดทำปฏิกิริยากับน้ำ  เช่น  โซเดียม  ทำให้เกิดก๊าซไฮโดรเจน  ซึ่งเป็นก๊าซที่ไวไฟ

          ไฟประเภท K  (Class  “K”)  เป็นการเผาไหม้ที่เกิดจาก  คราบน้ำมันหมู  น้ำมันพืชหรือในปล่องระบายควันในห้องครัว

ทำอย่างไรเมื่อเกิดเพลิงไหม้

สรุปขั้นตอนเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ ในอาคารบ้านเรือน 

  1. ตั้งสติ
  2. ดูประเภทของไฟ
  3. เลือกวิธีดับเพลิง
  4. แจ้งหน่วยดับเพลิง โทร 199 

เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ในสถานประกอบการ มีขึ้นตอนการทำงานอย่างไร

ใช้ขึั้นตอนเดียวกันกับเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ ในอาคารบ้านเรือน ต้องติดต่อให้หน่วยงานกลางรับทราบโดยทันที เพื่อจะประสานไปยังดับเพลิงท้องที่ แต่ถ้าไฟเราไม่สามารถควบคุมได้ ต้องมีขั้นตอนปฏิบัติดังนี้

สัญญาณเตือนและประเมินสถานการณ์

  • ตรวจสอบสัญญาณเตือนภัย: เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณเตือนไฟไหม้ เช่น เสียงระฆังแจ้งเตือนหรือกลิ่นควัน ให้หยุดกิจกรรมที่ทำและสังเกตสถานการณ์โดยทันที
  • ประเมินทิศทางของไฟ: หากสามารถเห็นเปลวไฟหรือมีควันหนาทึบ พยายามประเมินว่าทิศทางไหนปลอดภัยที่สุด ควรหลีกเลี่ยงการวิ่งตรงเข้าไปยังทิศทางของเปลวไฟหรือควันโดยตรง
วิธีเอาตัวรอดเมื่อเกิดเพลิงไหม้

เคลื่อนที่ต่ำและหาทางออกที่ใกล้ที่สุด

  • ลดระดับการเคลื่อนไหวให้ต่ำลง: ควันจากไฟไหม้จะลอยสูงขึ้น ทำให้ในระดับพื้นใกล้กับพื้นมีอากาศที่บริสุทธิ์กว่า ให้เคลื่อนที่โดยการคลานเพื่อหลีกเลี่ยงการสูดดมควันซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อปอด
  • มองหาทางออกที่ใกล้ที่สุด: ควรทราบตำแหน่งทางออกฉุกเฉินและบันไดหนีไฟเมื่ออยู่ในอาคาร พยายามหาทางออกไปยังที่ปลอดภัยโดยเร็วที่สุด
วิธีเอาตัวรอดเมื่อเกิดเพลิงไหม้
วิธีเอาตัวรอดเมื่อเกิดเพลิงไหม้

ปิดประตูระหว่างทางเพื่อลดการลุกลามของไฟ

  • ปิดประตูตามเส้นทางที่เดินผ่าน: การปิดประตูจะช่วยชะลอการลุกลามของไฟและป้องกันไม่ให้ควันแพร่กระจายไปในส่วนอื่นของอาคาร
  • ไม่เปิดประตูที่ร้อน: ก่อนจะเปิดประตูใดๆ ใช้หลังมือแตะที่บานประตู หากพบว่าประตูร้อนแสดงว่าอีกฝั่งมีไฟ ให้หลีกเลี่ยงการเปิดประตูและหาทางออกอื่น

ใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยในกรณีที่มีให้

  • ใช้หน้ากากกันควัน: หากอาคารที่คุณอยู่มีหน้ากากกันควันหรือผ้าห่มกันไฟ ควรใช้เพื่อป้องกันการสูดดมควันและปกป้องร่างกายจากความร้อน
  • ใช้ถังดับเพลิงเฉพาะในกรณีที่มีความรู้ในการใช้งาน: หากสถานการณ์ยังไม่รุนแรงเกินไปและคุณรู้วิธีใช้ถังดับเพลิง คุณอาจพยายามดับไฟเบื้องต้นได้ แต่ถ้าหากไฟใหญ่เกินไป ให้เน้นการหนีออกจากที่เกิดเหตุเป็นสำคัญ
วิธีเอาตัวรอดเมื่อเกิดเพลิงไหม้

แจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทันที

  • โทรแจ้งหน่วยงานดับเพลิง: เมื่อออกมาจากที่เกิดเหตุแล้ว ให้โทรแจ้งหน่วยงานดับเพลิงหรือเบอร์ฉุกเฉิน เช่น โทรด่วนเหตุเพลิงไหม้ กดโทร >>> 199  เพื่อรายงานเหตุการณ์และขอความช่วยเหลือ
  • บอกตำแหน่งและสถานการณ์อย่างชัดเจน: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งที่เกิดเหตุและสถานการณ์ที่เห็นอย่างชัดเจน เพื่อให้ทีมกู้ภัยสามารถเตรียมความพร้อมและเข้าช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีเอาตัวรอดเมื่อเกิดเพลิงไหม้

มารวมตัวที่จุดรวมพล

แผนกที่รับผิดชอบถือธง จะนำธงให้พนักงานวิ่งตาม มารวมกันที่จุดรวมพล แล้วนับจำนวนเพื่อเช็คจำนวนคนว่ามาครบกันหรือไม่ หากมีคนหาย จะต้องจัดทีมค้นหาตามจุดพื้นที่ต่างๆ โดยจะต้องเตรียมขนย้ายตามที่ได้ฝึกฝนมา และปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งไปโรงพยาบาล

วิธีเอาตัวรอดเมื่อเกิดเพลิงไหม้

การปฐมพยาบาลเบื้องต้นหลังเอาตัวรอดจากไฟไหม้

  • ตรวจร่างกายและบาดแผล: เมื่ออยู่ในที่ปลอดภัย ควรตรวจร่างกายตัวเองและคนรอบข้างว่ามีบาดแผลหรือมีอาการจากการสูดดมควันหรือไม่
  • ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น: หากมีการสูดดมควัน ให้เคลื่อนย้ายผู้ประสบเหตุไปยังที่มีอากาศบริสุทธิ์ หากมีบาดแผลจากความร้อนหรือไฟ ควรล้างแผลด้วยน้ำสะอาดและไม่ใช้สารเคมีใดๆ กับแผล จากนั้นเรียกรถพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาต่อไป

มีข้อเสอนแนะเพิ่มเติม หากเกิดไฟไหม้เสื้อผ้า ไหม้ตัวเองให้ถอดเสื้อผ้าออก ห้ามวิ่ง นอนกลิ้งลงกับพื้นจนกว่าไฟจะดับ ร้องขอความช่วยเหลือ

วิธีเอาตัวรอดเมื่อเกิดเพลิงไหม้

การเรียนรู้และฝึกฝนวิธีการเอาตัวรอดจากไฟไหม้ตามหลักสากลนี้จะช่วยให้ทุกคนมีความพร้อมในการเผชิญเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ การรู้วิธีการเอาตัวรอดในสถานการณ์ไฟไหม้นั้นเป็นเรื่องสำคัญ ไม่เพียงแต่จะเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เราปกป้องชีวิตคนรอบข้างและทรัพย์สินได้อีกด้วย

วิธีการใช้งานถังดับเพลิงเบื้องต้น และการบำรุงรักษา

วิธีการใช้ถังดับเพลิง

การใช้งานถังดับเพลิงอย่างถูกต้องถือเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยชีวิตและลดความเสียหายจากอัคคีภัยได้ การรู้จักประเภทถังดับเพลิงต่างๆ ว่าเหมาะกับการใช้งานกับวัตถุประเภทใดและการดูแลรักษาถังให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในทุกสถานที่ บทความนี้จะครอบคลุมเนื้อหาเกี่ยวกับวิธีการใช้งานถังดับเพลิงเบื้องต้น ประเภทของถังดับเพลิง และขั้นตอนการดูแลและตรวจสอบถังอย่างถูกวิธี

ส่วนที่ 1: วิธีการใช้งานถังดับเพลิงเบื้องต้น (หลักการ PASS)

 

การใช้ถังดับเพลิงให้ได้ผลดีและปลอดภัยมีขั้นตอนง่ายๆ ตามหลักการ PASS ดังนี้:

  1. P – Pull (ดึงสายฉีด): เริ่มต้นด้วยการดึงสายฉีด ที่ปลายด้ามจับของถังออก ซึ่งจะทำให้คันโยกใช้งานได้

  2. A – Aim (เล็งหัวฉีด): เล็งหัวฉีดไปที่ฐานของไฟ ซึ่งเป็นแหล่งที่เปลวไฟเกิดขึ้น ควรยืนห่างจากไฟประมาณ 1.5 – 3 เมตร เพื่อความปลอดภัยและให้การฉีดน้ำยาดับไฟมีประสิทธิภาพสูงสุด

  3. S – Squeeze (กดคันโยก): บีบคันโยกเพื่อฉีดน้ำยาออกมาจากถังดับเพลิง ควรกดค้างไว้ไม่ต้องปล่อยจนกว่าน้ำยาจะหมดหรือไฟดับ

  4. S – Sweep (ส่ายหัวฉีด): ขยับหัวฉีดไปมาอย่างช้าๆ ที่ฐานของไฟ เพื่อให้สามารถควบคุมและดับไฟได้เต็มพื้นที่

วิธีเอาตัวรอดเมื่อเกิดเพลิงไหม้ และการใช้ถังดับเพลิง

แต่ในขั้นตอนปฏิบัติจริง อยากแนะนำให้ทำการปลดสายหัวฉีดก่อน ขั้นตอนปลดสลัก เพราะถังบางรุ่น ที่เก็บสายหัวฉีดค่อนข้าแน่นมาก การปลดสลักออกก่อน อาจจะเกิดอันตรายกับผู้ใช้งานได้

ถ้าดึงสายไม่ออกแนะนำให้เอาถังนอน แล้วใช้เท้าเหยียบเพื่อให้ปลดง่ายขึ้น

วิธีการใช้ถังดับเพลิง

ส่วนที่ 2: ประเภทของถังดับเพลิงและการใช้งานกับวัตถุต่างๆ

การเลือกใช้ถังดับเพลิงแต่ละประเภทมีความสำคัญ เนื่องจากถังดับเพลิงมีหลายชนิดและใช้กับเชื้อเพลิงประเภทต่างๆ ดังนี้:

  1. ถังดับเพลิงประเภทผงเคมีแห้ง (Dry Chemical)

    • เหมาะกับ: เหตุเพลิงไหม้จากของแข็ง (Class A), ของเหลว (Class B), และไฟฟ้า (Class C)
    • การใช้งาน: ฉีดพ่นไปที่ฐานของไฟ โดยผงเคมีแห้งจะปกคลุมเชื้อเพลิงทำให้ไฟขาดออกซิเจนและดับไป
    • ข้อดี: ใช้งานได้กับไฟหลายประเภท
    • ข้อควรระวัง: ผงเคมีอาจฟุ้งกระจาย ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลง
  2. ถังดับเพลิงประเภทคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂)

    • เหมาะกับ: เหตุเพลิงไหม้จากของเหลว (Class B) และไฟฟ้า (Class C)
    • การใช้งาน: ฉีดพ่นไปที่ฐานของไฟ โดย CO₂ จะทำให้ไฟขาดออกซิเจนและดับไป
    • ข้อดี: ไม่มีสารตกค้าง เหมาะกับสถานที่ที่ต้องการรักษาความสะอาด เช่น ห้องเซิร์ฟเวอร์
    • ข้อควรระวัง: ควรใช้ในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศดี เนื่องจาก CO₂ เป็นก๊าซที่ไม่มีออกซิเจน
วิธีเอาตัวรอดเมื่อเกิดเพลิงไหม้ และการใช้ถังดับเพลิง

      3.ถังดับเพลิงประเภทโฟม (Foam)

    • เหมาะกับ: เหตุเพลิงไหม้จากของแข็ง (Class A) และของเหลว (Class B)
    • การใช้งาน: โฟมจะคลุมเชื้อเพลิงไม่ให้ได้รับออกซิเจน และยังช่วยลดอุณหภูมิของไฟ
    • ข้อดี: เหมาะสำหรับการดับไฟที่เกิดจากเชื้อเพลิงชนิดของเหลว
    • ข้อควรระวัง: ไม่ควรใช้กับไฟที่เกิดจากไฟฟ้า (Class C) เนื่องจากโฟมเป็นสื่อนำไฟฟ้า

     4.ถังดับเพลิงประเภทน้ำ (Water)

      • เหมาะกับ: เหตุเพลิงไหม้จากของแข็ง (Class A) เช่น กระดาษ ไม้ ผ้า
      • การใช้งาน: ฉีดพ่นน้ำที่ฐานของไฟเพื่อลดอุณหภูมิและดับไฟ
      • ข้อดี: ใช้งานง่ายและต้นทุนต่ำ
      • ข้อควรระวัง: ห้ามใช้กับไฟจากไฟฟ้า (Class C) และไฟจากของเหลว (Class B)
วิธีเอาตัวรอดเมื่อเกิดเพลิงไหม้ และการใช้ถังดับเพลิง

สำหรับประชาชนทั่วไป สัญลักษณ์  GHS  ( Globally Harmonized System for Classification and Labelling of Chemicals ) กำหนดโดย องค์การสหประชาชาติ ป็นการติดฉลากสารเคมีเพื่อให้เป็นระบบเดียวกันทั่วโลก โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมการปกป้องสุขภาพมนุษย์ และสิ่งแวดล้อมจาก อันตรายของสารเคมี ผ่านระบบที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งโลก ทั้งยังลดความซ้ำซ้อนในการจัดเตรียมข้อมูล การประเมินสารเคมี ให้ประเทศต่าง ๆ มีข้อมูลสารเคมีที่ถูกต้องตรงกัน

GHS มีความสำคัญอยู่ไม่น้อย เพื่อที่จะได้ระวังเมื่อเจอรถขนส่งสารเคมี หรือเมื่อพบเห็นกล่องที่ติดสัญลักษณ์แสดงอันตรายนั้นๆ โดยจากข้อมูลของ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ระบุไว้ว่า รูปสัญลักษณ์แสดงความเป็นอันตราย (Hazard pictogram) เป็นสัญลักษณ์สีดำบนพื้นขาวอยู่ภายในกรอบสีแดงรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด

มีทั้งหมด 9 รูปสัญลักษณ์  เพื่อสื่อความหมายของความเป็นอันตรายในแต่ละด้าน และแต่ละประเภท

วิธีเอาตัวรอดเมื่อเกิดเพลิงไหม้ และการใช้ถังดับเพลิง

อัคคีภัยเป็นสิ่งที่เราไม่อยากให้เกิด แต่เมื่อเกิดแล้ว เป็นภัยร้ายแรงถึงชีวิต เราเตรียมพร้อมรับมือแล้วยัง

บทเรียนที่เราควรต้องศึกษา ป้องกัน และเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุอัคคีภัยที่ไม่คาดคิด ด้วยความรู้ และการฝึกฝน ดำรงอยู่ในความไม่ประมาท และมีสติอยู่ตลอดเวลา

วิธีเอาตัวรอดเมื่อเกิดเพลิงไหม้

ส่วนที่ 3: การดูแลและตรวจสอบถังดับเพลิงเบื้องต้น

การดูแลรักษาและตรวจสอบถังดับเพลิงให้พร้อมใช้งานเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ถังสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพในยามฉุกเฉิน โดยมีวิธีการตรวจสอบดังนี้:

  1. การตรวจสอบถังเดือนละครั้ง

    • ตรวจเช็คเข็มมาตรวัดแรงดัน: ควรอยู่ในตำแหน่ง “สีเขียว” หากเข็มชี้ที่สีแดง แสดงว่าความดันต่ำเกินไป ควรทำการเติมหรือเปลี่ยนถัง
    • ตรวจสอบสภาพหัวฉีด: ดูว่าหัวฉีดไม่อุดตันหรือมีสิ่งกีดขวาง
    • ตรวจสลักและแถบประทับตรา: ควรอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มีการเปิดใช้งานก่อนหน้า
  2. การบำรุงรักษาประจำปี

    • ตรวจสอบน้ำหนักถัง: หากน้ำหนักถังลดลง อาจเกิดจากการรั่วไหลของน้ำยาดับเพลิง ควรทำการตรวจเช็คโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ
    • ทำความสะอาดถังและหัวฉีด: เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีฝุ่นหรือคราบน้ำมันเกาะอยู่ ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง
    • ส่งตรวจโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ: ควรส่งถังให้ช่างตรวจสอบทุกปีเพื่อประกันคุณภาพ
  3. การเปลี่ยนถังใหม่ตามอายุการใช้งาน

    • ตรวจสอบวันหมดอายุของถัง: ถังดับเพลิงมีอายุการใช้งานตามที่ผู้ผลิตกำหนด ควรเปลี่ยนถังเมื่อถึงอายุการใช้งาน
    • เก็บบันทึกประวัติการบำรุงรักษา: เพื่อให้ทราบว่าถังได้ผ่านการตรวจสอบหรือบำรุงรักษาครั้งล่าสุดเมื่อใด
วิธีเอาตัวรอดเมื่อเกิดเพลิงไหม้
วิธีเอาตัวรอดเมื่อเกิดเพลิงไหม้ และการใช้ถังดับเพลิง

การใช้งานและดูแลถังดับเพลิงเป็นสิ่งที่ควรฝึกฝนและใส่ใจ เพื่อให้มั่นใจว่าถังพร้อมใช้งานและมีประสิทธิภาพในการดับเพลิงในกรณีฉุกเฉิน ทั้งนี้ ควรเลือกถังที่เหมาะกับประเภทของเชื้อเพลิงที่อาจเกิดเหตุ และตรวจสอบถังดับเพลิงอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้สถานที่ทำงานหรือบ้านมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

หลังจากที่เราได้ตระหนักถึงอันตรายและผลกระทบจากอัคคีภัย ทั้งในด้านการสูญเสียทรัพย์สินและความเสี่ยงต่อชีวิตสมาชิกในครอบครัว เห็นได้ชัดว่าเพลิงไหม้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วอาจสร้างความเสียหายอย่างมหาศาล การมี ประกันอัคคีภัยบ้าน เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สามารถลดภาระความเสี่ยงทางการเงินให้กับเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยให้เรามั่นใจในความปลอดภัยของครอบครัวมากยิ่งขึ้น

ประกันอัคคีภัยบ้านช่วยแบ่งเบาภาระอะไรบ้าง?

การเลือกซื้อประกันอัคคีภัยสำหรับบ้านและทรัพย์สินของคุณ จะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับความเสียหายและความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องรับภาระเองทั้งหมด โดยการคุ้มครองที่สำคัญจากประกันอัคคีภัยมีดังนี้:

  1. คุ้มครองความเสียหายที่เกิดกับตัวอาคาร – ประกันอัคคีภัยจะให้ความคุ้มครองสำหรับการซ่อมแซมหรือสร้างอาคารใหม่ หากบ้านของคุณได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนที่เป็นโครงสร้างหลัก หลังคา ผนัง หรือตัวอาคารทั้งหมด

  2. คุ้มครองทรัพย์สินภายในบ้าน – นอกจากตัวอาคารแล้ว ประกันอัคคีภัยยังให้ความคุ้มครองทรัพย์สินส่วนบุคคลที่อยู่ภายในบ้าน เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องครัว และของใช้ประจำวัน ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าและอาจเสียหายอย่างง่ายดายในเหตุเพลิงไหม้

  3. ลดภาระค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูบ้านและทรัพย์สิน – การที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบ้านและการซื้อทรัพย์สินใหม่อาจเป็นภาระหนักสำหรับใครหลายคน ประกันอัคคีภัยจะช่วยแบ่งเบาภาระเหล่านี้ โดยบริษัทประกันจะจ่ายค่าใช้จ่ายตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง (ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์)

  4. คุ้มครองเพิ่มเติมในกรณีอุบัติเหตุจากไฟไหม้ – บางกรมธรรม์มีความคุ้มครองพิเศษเพิ่มเติม เช่น การดูแลค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจากเหตุเพลิงไหม้ ช่วยให้คุณและครอบครัวสามารถฟื้นตัวได้โดยไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายในการรักษา

ทำไมการมีประกันอัคคีภัยบ้านจึงเป็นเรื่องสำคัญ: ปกป้องทรัพย์สินและชีวิตคุณในวันที่ไม่คาดฝัน

หลังจากที่เราได้ตระหนักถึงอันตรายและผลกระทบจากอัคคีภัย ทั้งในด้านการสูญเสียทรัพย์สินและความเสี่ยงต่อชีวิตสมาชิกในครอบครัว เห็นได้ชัดว่าเพลิงไหม้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วอาจสร้างความเสียหายอย่างมหาศาล การมี ประกันอัคคีภัยบ้าน เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สามารถลดภาระความเสี่ยงทางการเงินให้กับเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยให้เรามั่นใจในความปลอดภัยของครอบครัวมากยิ่งขึ้น

อัคคีภัยกับความเสียหายที่ไม่คาดคิด

เพลิงไหม้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งการลัดวงจรไฟฟ้า การหุงต้มอาหาร การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า และแม้แต่ภัยธรรมชาติ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้โดยที่เราไม่ทันระวัง ทำให้ในเวลาเพียงไม่กี่นาทีบ้านของเราหรือทรัพย์สินที่มีค่าหลายแสน หลายล้านบาท ต้องสูญเสียไปอย่างน่าเสียดาย และสิ่งที่น่าเสียใจยิ่งกว่านั้น คือการสูญเสียสมาชิกในครอบครัวไปอย่างไม่มีวันกลับ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อาจประเมินค่าได้

ประกันอัคคีภัยบ้านช่วยแบ่งเบาภาระอะไรบ้าง?

การเลือกซื้อประกันอัคคีภัยสำหรับบ้านและทรัพย์สินของคุณ จะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับความเสียหายและความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องรับภาระเองทั้งหมด โดยการคุ้มครองที่สำคัญจากประกันอัคคีภัยมีดังนี้:

  1. คุ้มครองความเสียหายที่เกิดกับตัวอาคาร – ประกันอัคคีภัยจะให้ความคุ้มครองสำหรับการซ่อมแซมหรือสร้างอาคารใหม่ หากบ้านของคุณได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนที่เป็นโครงสร้างหลัก หลังคา ผนัง หรือตัวอาคารทั้งหมด

  2. คุ้มครองทรัพย์สินภายในบ้าน – นอกจากตัวอาคารแล้ว ประกันอัคคีภัยยังให้ความคุ้มครองทรัพย์สินส่วนบุคคลที่อยู่ภายในบ้าน เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องครัว และของใช้ประจำวัน ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าและอาจเสียหายอย่างง่ายดายในเหตุเพลิงไหม้

  3. ลดภาระค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูบ้านและทรัพย์สิน – การที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบ้านและการซื้อทรัพย์สินใหม่อาจเป็นภาระหนักสำหรับใครหลายคน ประกันอัคคีภัยจะช่วยแบ่งเบาภาระเหล่านี้ โดยบริษัทประกันจะจ่ายค่าใช้จ่ายตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง (ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์)

  4. คุ้มครองเพิ่มเติมในกรณีอุบัติเหตุจากไฟไหม้ – บางกรมธรรม์มีความคุ้มครองพิเศษเพิ่มเติม เช่น การดูแลค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจากเหตุเพลิงไหม้ ช่วยให้คุณและครอบครัวสามารถฟื้นตัวได้โดยไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายในการรักษา

การตัดสินใจที่คุ้มค่าในระยะยาว: มั่นใจในความปลอดภัยของบ้านและครอบครัว

การมี ประกันอัคคีภัย เป็นการเตรียมพร้อมที่สำคัญซึ่งสามารถช่วยให้คุณและครอบครัวรู้สึกอุ่นใจ เพราะหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น คุณจะมีตัวช่วยที่มั่นคงในการฟื้นฟูบ้านและทรัพย์สินได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้สามารถกลับมาดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติโดยเร็ว

เพื่อให้ได้ความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ คุณควรเลือกประกันอัคคีภัยที่เหมาะสม โดยศึกษาความคุ้มครองและเงื่อนไขที่แต่ละบริษัทนำเสนอ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้เลือกกรมธรรม์ที่คุ้มค่าและครอบคลุมอย่างแท้จริง ทั้งนี้ การซื้อประกันไม่เพียงเป็นการปกป้องบ้าน แต่ยังเป็นการปกป้องอนาคตและความสุขของครอบครัวให้ดำเนินไปได้อย่างมั่นคงยิ่งขึ้น

สนใจซื้อประกันอัคคีภัยบ้านคลิ๊ก

เบี้ยหลักร้อย คุ้มครองหลักแสน เบี้ยเริ่มต้น 400 บาท คุ้มครองสูงสุด 300,000 บาท คลิ๊กซื้อเลย >> ประกันอัคคีภัยโตเกียวมารีน 

หากต้องการความคุ้มครองมากกว่านี้ทักหาเรา ได้ที่ไลน์ >>>

เอกสารในการนำเสนองาน

  • รูปถ่ายอาคารด้านนอก ด้านใน
  • พื้นที่ของตัวอาคาร / หากไม่ทราบให้แจ้งขนาดกว้าง x ยาวของตัวอาคาร / หรือแปลนบ้านมาให้ตรวจสอบพื้นที่ได้ค่ะ
  • แจ้งที่ตั้งของอาคาร
  • ประเมินอาคาร และทรัพย์สินมาคร่าวๆ

สิทธิประโยชน์สมาชิกมากมายรอคุณอยู่

“สนใจอยากมีรายได้เสริม เงินแสน “ จากงานประจำที่ทำอยู่ เริ่มต้นง่ายๆ ไม่ใช่งานขาย แถมมีระบบและเครื่องมือดีๆ เว็บโปรโมตธุรกิจ ส่งตรงถึงมือคุณทันที มีระบบเรียนรู้ออนไลน์ อยากรู้วิธีการทำการตลาดออนไลน์ ความรู้งานประกัน จบครบที่เดียว…. Srikrungnetwork ประกันออนไลน์รูปแบบใหม่

อยากหารายได้เสริม กับธุรกิจประกันรถยนต์ ต่อยอดกับงานงานประจำที่ทำอยู่ งานขายของออนไลน์ เปิดหน้าร้านไปรษณีย์ มีหน้าร้านอยู่แล้ว งานประกันชีวิต งานตรอ หรือเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัวที่คุณทำอยู่ตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นงานอะไร ธุรกิจนี้ตอบโจทย์ท่านแน่นอน ไม่รบกวนงานประจำที่ท่านทำอยู่เลย 

🎯 ถ้าคุณอยากจะซื้อประกันในราคาส่วนลดพิเศษ แล้วตัวคุณอยู่ในสถานการณ์นี้

📌คุณเป็นเจ้าของธุรกิจ มีรถใช้หลายคัน อยากจะประหยัดค่าใช้จ่ายในการต้องจ่ายประกัน แต่ละปี

📌กำลังมองหาธุรกิจ อยากตั้งหน้าร้าน

📌อยากจะทำเป็นรายได้เสริม อยากเริ่มต้น….ด้วยทุนที่จำกัด ไม่อยากลาออกจากงานประจำ

📌อยากทำธุรกิจที่ไหนก็ได้ เน้นใช้ระบบทำงานแทน ทำบ้าง หยุดบ้าง สตางค์ก็ได้ ทุกความอยาก

🎯 ที่นี่มีคำตอบ ศรีกรุงโบรคเกอร์

📍 เริ่มต้นง่ายๆ สมัครสมาชิกซื้อใช้เองได้ส่วนลดทันที เท่ากับนายหน้า แถมบอกต่อได้ค่าแนะนำอีก มีรายได้ทันที จากธุรกิจประกันรถยนต์

📍 อยากเปิดหน้าร้าน สามารถคีย์งาน พิมพ์กรรมธรรม์ได้เองที่บ้าน

📍 ขายประกันได้หลากหลายครอบคลุมทุกความต้องการ เราไม่ได้มีแค่ประกันรถ แต่มีประกันเดินทาง อัคคีภัย ประกันกิจการ….

📍 ไม่มีหน้าร้าน เราก็มีเว็บไซต์ แจกให้ใช้กันฟรีๆ สำหรับทำธุรกิจ ทั้งการขาย และขยายทีมงาน

📍 ไม่ต้องออกจากงานประจำ

📍 ไม่บังคับยอดขาย ไม่บังคับอบรม

📍 สะสมคะแนนไปเที่ยวในและต่างประเทศ ฟรี

📍 โอนเงินเข้าบริษัทประกันภัยโดยตรง

📍 เช็คเบี้ย แจ้งงานได้ตลอด 24 ชม. ไม่มีวันหยุด

📍 จัดส่งกรมธรรม์ฟรี ทั่วประเทศ

📍 มีระบบผ่อนชำระ 3-6 งวด ทั้งใช้บัตร/ไม่มีบัตรเครดิต

📍 สอนฟรี ทุกขั้นตอน จนกว่าจะเป็น

📍 สมัคร 200 บาท ขายได้มากกว่า 35 บริษัท

📍 ฟรี ประกันอุบัติเหตุ 1 แสนบาท

📍 ไม่ต้องใช้คน หรือเงินค้ำ

📍 สมัครง่ายๆ ใช้แค่บัตรประชาชนใบเดียว

สมัครตอนนี้รับฟรีเว็บไซต์ นำไปใช้ในการทำตลาดออนไลน์ฟรี ด่วน!! สิทธิมีจำนวนจำกัด

ยินดีให้คำปรึกษา ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย สมัครสมาชิก 200.-บาท ซื้อใช้ได้ส่วนลด ต่อยอดทำเป็นธุรกิจขายประกันภัย รายได้หลักแสนต่อเดือน รอคุณอยู่!!

📢มาคุยกันได้ : นิด วิลาวัลย์

โทร 0-8155-42494

แอดไลน์มาพูดคุยสอบถามกันได้ค่ะ

สนใจรับข้อมูลเพิ่มเติม คลิ๊ก >> https://srikrungnetwork.com/

สมัครสมาชิกออนไลน์ คลิ๊ก >> ใบสมัครออนไลน์

ติดตามอ่านบทความดีๆ โปรโมชั่นเด็ด Facebook คลิ๊ก >> Facebook 724 prakan

ติดตามช่อง Youtube คลิ๊ก >> YOUTUBE นิด วิลาวัลย์ สอนขายประกันออนไลน์ง่ายนิดเดียว

รายได้เสริม เงินแสน จากธุรกิจประกันภัย

สนใจซื้อประกันรถยนต์ พรบ.ออนไลน์ มีส่วนลด คลิ๊ก >> http://www.724prakan.com/

สมัครสมาชิกฟรี ได้ส่วนลด เลือกซื้อตัดบัตรเครดิต สะสมแต้ม เลือกซื้อพรบมอไซต์ พรบรถยนต์ ประกันรถยนต์ไฟฟ้า ประกันอุบัติเหตุ ประกันเดินทาง ประกันสุขภาพ และอีกหลายแบบประกัน ซื้อปุ๊บคุ้มครองทันที

📢รูปแบบใหม่ของการซื้อประกันออนไลน์ ซื้อผ่านมือถือ ทำรายการด้วยตัวคุณเอง
 
🌟ซื้อปุ๊บ คุ้มครองทันที 🌟
👉พรบ. ประกันรถ ประกันเดินทาง
👉มีให้เลือกกว่า 30 บริษัท มีส่วนลดทันที 5 % – 20%
👉สะสมแต้ม ผ่อนจ่ายผ่านบัตรเครดิต สูงสุด 10 เดือน หรือผ่อนเงินสด
👉บริการรถใช้ระหว่างซ่อม บริการรถยกฟรี ตรวจรถเร็วใน 1 ชม.เป็นตามเงื่อนไขบริษัท และสิทธิพิเศษอื่นๆอีกมากมายรอคุณอยู่
 
สนใจคลิ๊ก สม้ครสมาชิกฟรี คลิ๊ก >> http://www.724prakan.com/
ประกันรถยนต์ไฟฟ้า
ประกันอะไหล่รถยนต์
ประกันรถมอเตอร์ไซต์