- 24 สิงหาคม 2025
- ประกันภัยรถยนต์
- 101 Views
ทุก ๆ ปี เจ้าของรถยนต์ทุกคนต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย คือการ “ต่อภาษีรถยนต์ประจำปี” หรือที่หลายคนเรียกกันติดปากว่า การต่อทะเบียนรถ นั่นเอง หากใครไม่ต่อภาษีรถยนต์ตรงเวลา อาจเสี่ยงต่อการถูกปรับ และถ้าล่าช้านานเกินไปอาจถึงขั้นถูกระงับทะเบียนรถได้เลยทีเดียว
สารบัญ
ทำไมต้องต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
ข่าวดีคือ ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกได้พัฒนาช่องทางดิจิทัลที่หลากหลาย ทำให้เราสามารถ ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องเสียเวลาไปต่อคิวที่สำนักงานขนส่งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการต่อภาษีผ่าน แอปเป๋าตัง (Pao Tang) ช่องทางใหม่ล่าสุดในปี 2568, เว็บไซต์ DLT e-Service, หรือแอป DLT Vehicle Tax Plus ที่สะดวกสบายผ่านสมาร์ทโฟน
ช่องทางต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
ในบทความนี้ นิดจะพาทุกคนไปเจาะลึกแบบ Step-by-Step ทุกช่องทาง พร้อมทั้งเอกสารที่ต้องใช้, ค่าธรรมเนียม, เงื่อนไขรถที่สามารถต่อออนไลน์ได้ รวมถึงเคล็ดลับต่อภาษีให้ถูกต้องและรวดเร็วที่สุด เหมาะสำหรับทั้งคนที่เพิ่งหัดใช้บริการออนไลน์ และผู้ที่อยากอัปเดตข้อมูลใหม่ล่าสุดเพื่อความมั่นใจค่ะ
ช่องทางใหม่ล่าสุด: ต่อภาษีรถยนต์ผ่านแอป เป๋าตัง (Pao Tang)
ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2568 เป็นต้นมา กรมการขนส่งทางบกได้ร่วมมือกับ แอปเป๋าตัง เพื่อเปิดบริการ “ขับรถ” (KlubRoad) ให้ประชาชนสามารถต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ได้ในแอปเดียว
ขั้นตอนการต่อภาษีผ่านเป๋าตัง
- เปิดแอป เป๋าตัง และเข้าสู่ระบบ
- เลือกเมนู “ขับรถ” (KlubRoad)
- เลือก “ชำระภาษีรถยนต์” สามารถเลือกได้ทั้งของตัวเองหรือชำระแทนคนอื่น
- ระบบจะแสดงข้อมูลรถที่ผูกไว้ เลือกคันที่ต้องการต่อภาษี
- ตรวจสอบความถูกต้อง หากยังไม่มี พ.ร.บ. สามารถซื้อเพิ่มได้ในแอป
- ดำเนินการชำระเงินผ่านช่องทางที่สะดวก เช่น QR Code, Mobile Banking
- หลังชำระเงิน จะได้ สติ๊กเกอร์ภาษีดิจิทัล (Digital Tax Sticker) ที่สามารถใช้ได้ทันทีเป็นเวลา 15 วัน
- รอรับ สติ๊กเกอร์จริง ส่งถึงบ้านทางไปรษณีย์
สะดวกรวดเร็ว ก่อนต่อภาษีสามารถซื้อ พรบ.ออนไลน์ ได้กรมธรมม์ทันที ลิงค์เข้าระบบขนส่งต่อได้เลย คลิ๊กซื้อได้ที่ >>>724 ประกันออนไลน์
ต่อภาษีผ่านเว็บไซต์ DLT e-Service
อีกหนึ่งช่องทางยอดนิยม คือการต่อภาษีผ่าน เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก (eservice.dlt.go.th) ใช้งานง่ายมากผ่านมือถือได้เลยค่ะ
***ต้องซื้อ พรบ.รถก่อนถึงทำรายการชำระภาษีในระบบได้ ถ้าต้องการซื้อพรบ.ออนไลน์ คลิ๊กซื้อได้ที่ >>>724 ประกันออนไลน์
วิธีการต่อภาษีรถยนต์ผ่าน DLT e-Service
- เข้าเว็บไซต์ eservice.dlt.go.th
- ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบด้วย Digital ID หรือ ThaID App
- เลือกเมนู “ชำระภาษีรถประจำปีผ่านอินเทอร์เน็ต”
- กรอกข้อมูลรถ เช่น เลขทะเบียน, ชื่อผู้เอาประกัน
- กรณีถ้าเคยซื้อผ่านระบบขนส่งออนไลน์มาแล้วเครื่องจะบันทึกเก็บไว้ คลิ๊กเลือกแล้วชำระภาษีได้เลย
- กรณีถ้ายังไม่เคยซื้อผ่านระบบขนส่งออนไลน์มาก่อน ให้ลงทะเบียนรถเข้าไปใหม่ หลังจากนั้นถึงค่อยทำรายการต่อชำระภาษี
- เลือกวิธีชำระเงิน
- ตัดบัญชีธนาคาร
- บัตรเครดิต/เดบิต (มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม)
- QR Code หรือ Counter Service
- ระบุที่อยู่จัดส่งเอกสาร
- ชำระเงินและรอรับ สติ๊กเกอร์ภาษี ส่งมาที่บ้าน
ข้อดีของ e-Service
- ใช้งานได้ 24 ชั่วโมง
- สะดวกสำหรับผู้ที่ทำงานประจำ ไม่มีเวลาไปขนส่ง
- ระบบเชื่อมโยงกับบริษัทประกัน ทำให้ตรวจสอบ พ.ร.บ. ได้ง่าย
- กรณีถ้ารถต้องตรวจสภาพ ต้องทำการตรวจสภาพก่อนถึงมาต่อภาษีออนไลน์ได้ ให้ถ่ายรูปเอกสารต่อสภาพแนบไปในระบบได้เลย
รถที่สามารถต่อภาษีออนไลน์ได้
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง (รย.1)
- รถตู้/รถโดยสารเกิน 7 ที่นั่ง (รย.2)
- รถกระบะบรรทุกส่วนบุคคล (รย.3)
- รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล (รย.12)
- หมายเหตุ: รถที่เกินอายุ 7 ปี (สำหรับรถยนต์) หรือเกิน 5 ปี (สำหรับมอเตอร์ไซค์) ต้องตรวจสภาพรถก่อน แล้วจึงนำผลตรวจมาอัปโหลดในระบบค่ะ
ก่อนเข้าต่อภาษีออนไลน์ อย่าลืมซื้อ พรบ.ออนไลน์
นิดมีช่องทางที่ท่านสามารถได้พรบ.รถเก๋ง รถมอเตอร์ไซต์ รถบรรทุก เข้าไปซื้อเองได้ง่ายที่เว็บ >>
ต่อภาษีผ่านแอป DLT Vehicle Tax Plus
ใครที่ชอบทำธุรกรรมผ่านมือถือ ต้องไม่พลาดแอปนี้ค่ะ เป็นแอปทางการจากกรมการขนส่งทางบก ใช้งานง่าย และรองรับทั้ง Android และ iOS
วิธีการใช้งาน
- ดาวน์โหลดแอป DLT Vehicle Tax Plus
- ลงทะเบียนโดยยืนยันตัวตนผ่าน ThaID หรือ OTP
- เลือกเมนู “ชำระภาษีรถ”
- กรอกข้อมูลทะเบียนรถ + ข้อมูล พ.ร.บ.
- เลือกช่องทางชำระเงิน เช่น Mobile Banking, QR Code
- เลือกวิธีรับสติ๊กเกอร์ภาษี (ไปรษณีย์หรือรับที่ตู้ Kiosk)
- รอรับสติ๊กเกอร์ตามที่เลือก
จุดเด่นของแอป
- ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่
- สแกน QR เพื่อจ่ายได้ทันที
- รองรับการซื้อ พ.ร.บ. ควบคู่ไปในขั้นตอนเดียว
อ้างอิง : ดังนั้นใครที่กำลังหาข้อมูล “วิธีต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ ใหม่ล่าสุด 2568” สามารถเลือกช่องทางที่สะดวกที่สุด แล้วลงมือทำได้เลย ง่าย รวดเร็ว และมั่นใจได้ว่า “รถคุณพร้อมถูกกฎหมาย 100%” กดที่ลิงค์ >>https://eservice.dlt.go.th/esvapp/login.jsf
เอกสารและเงื่อนไขที่ต้องใช้ในการต่อภาษีออนไลน์
- เล่มทะเบียนรถ (สำเนาหน้าแรก)
- กรมธรรม์ พ.ร.บ. (ประกันภัยภาคบังคับ) ที่ยังไม่หมดอายุ และเหลือเวลาไม่น้อยกว่า 90 วัน
- ใบตรวจสภาพรถ (ตรอ.) – สำหรับรถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปี หรือมอเตอร์ไซค์เกิน 5 ปี
- ใบรับรองตรวจแก๊ส (LPG/CNG) – สำหรับรถที่ติดแก๊ส
- กรณีรถเกินกำหนด ต้องชำระค่าปรับเพิ่มเดือนละ 1% ของภาษี
บทสรุป
ปี 2568 ถือเป็นปีที่การต่อภาษีรถยนต์ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบจริง ๆ เพราะมีตัวเลือกให้เลือกถึง 3 ช่องทาง ได้แก่ แอปเป๋าตัง, เว็บไซต์ DLT e-Service, และ แอป DLT Vehicle Tax Plus ช่วยให้เจ้าของรถทุกคนสะดวกขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือแม้กระทั่งต่างจังหวัด
การต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดเวลาและค่าเดินทาง แต่ยังทำให้เรามั่นใจได้ว่า การใช้งานรถของเราถูกต้องตามกฎหมาย ปลอดภัย และไม่ต้องกังวลหากมีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่
- ค่าภาษีพื้นฐาน: คำนวณจากขนาดเครื่องยนต์และประเภทรถ
- ค่าจัดส่งเอกสาร: ประมาณ 32–40 บาท
- ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต/เดบิต: 2% + VAT 7%
- ค่าปรับกรณีล่าช้า: 1% ต่อเดือน สูงสุด 3 ปี หากเกิน 3 ปี ทะเบียนจะถูกยกเลิก
- ต่อภาษีล่วงหน้าได้ 90 วัน ก่อนครบกำหนด
- ตรวจสอบกรมธรรม์ พ.ร.บ. ให้เรียบร้อยก่อนเข้าสู่ระบบ
- หากรถเก่าเกิน 7 ปี ให้ตรวจสภาพล่วงหน้า ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถต่อภาษีได้
- เก็บ Digital Tax Sticker ไว้ในมือถือ เผื่อเจ้าหน้าที่เรียกตรวจระหว่างรอเอกสารตัวจ
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง (รย.1)
- รถตู้/รถโดยสารเกิน 7 ที่นั่ง (รย.2)
- รถกระบะบรรทุกส่วนบุคคล (รย.3)
- รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล (รย.12)
- หมายเหตุ: รถที่เกินอายุ 7 ปี (สำหรับรถยนต์) หรือเกิน 5 ปี (สำหรับมอเตอร์ไซค์) ต้องตรวจสภาพรถก่อน แล้วจึงนำผลตรวจมาอัปโหลดในระบบค่ะ