- 3 มิถุนายน 2019
- บริษัทประกันภัย, ประกันชีวิต, ประกันผ่อนได้, ประกันภาคสมัครใจ
- 41 Views
วันนี้จะมาเล่าถึงครอบครัวๆนึง ❣ครอบครัวที่ดูสมบูรณ์แบบมากคุณพ่อทำงานบริษัทประกันเป็นนักขายมือหนึ่งของบริษัทประกันที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ที่พื้นสีแดงๆ (ถ้าให้ใบ้กว่านี้ก็ขึ้นชื่อแล้วล่ะ)
คุณแม่เป็นแม่บ้าน และมีลูกสาว อีก 2 คน อยู่วัยกำลังเรียน คุณพ่อหาเงินแต่ละเดือน ได้เยอะมากจากค่าคอมขายประกัน และค่าบริหารทีมอีก ได้เงินซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อความสุขทุกอย่างให้ครอบครัว ฟังดูแล้วครอบครัวนี้ก็ดูดีมีความสุขกับชีวิตดี๊ดี
ด้วยความที่เป็นคนเก่ง จะมีบริษัทต่างๆ มาจีบดึงให้ไปร่วมทีมด้วย แต่แกไม่สนใจ แต่ก็มีเหตุผลอะไรไม่ทราบ มาทราบข่าวว่าแกย้ายจากบริษัท แดงๆ มาบริษัทสีน้ำเงิน ซึ่งเหตุผลน่าจะมาจาก ผลตอบแทนที่ยั่วยวน ประกอบกับครอบครัวต้องใช้เงินในการเรียนของบุตรสาว 2 คน กับค่าภาษีสังคม (ค่าเฟอร์นิเจอร์) ทำให้ภาระที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น เงินจากที่เคยอยู่ได้ ตอนนี้ดูแล้วไม่น่าจะอยู่สุขสบายได้ แกเลยตัดสินใจออกมาทำกับบริษัทใหม่ ซึ่งแน่นอนทุกอย่างต้องเริ่มใหม่ ทั้งหาฐานลูกค้าใหม่ เรียนรู้การทำงานใหม่ เพื่อนร่วมงานและสิ่งแวดล้อมใหม่ทั้งหมด แต่ไม่น่าจะเกินกำลังความสามารถของแกอยู่แล้ว
และแล้ววันนึง เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ก็มาเกิดกับแก ซึ่งยังเป็นคนหนุ่ม ไฟแรง ชีวิตครอบครัวที่กำลังสร้างเนื้อ สร้างตัว และพึ่งพาหัวหน้าครอบครัวคนนี้เป็นหลัก มีอันต้องล้มคลืนลง เมื่อแกต้องนอนป่วยอยู่โรงพยาบาล
ตอนแรกหมอยังไม่ทราบสาเหตุอาการ แกเข้าออกโรงพยาบาลหลายครั้ง ด้วยความที่เป็นคนขายประกัน ต้องจัดหนักซื้อประกันให้ตัวเอง คลอบคลุมอยู่แล้ว แต่ครั้งล่าสุดซึ่งเป็นครั้งที่แกเข้าไปแล้ว ไม่ได้กลับออกมาอีกเลย เพราะคุณหมอพบว่าแกเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ครั้งหลังสุดที่ไปเยี่ยม แกนอนซม เป็นคนป่วยผอม หมดเรี่ยวแรง แต่ดูจากแววตาแกแล้ว แกยังมีความหวัง ความฝัน ที่ยังอยากมีชีวิตอยู่ แต่ร่างกายแกไม่เอื้ออำนวยแล้วนะซิ
จำได้วันที่ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล ไปไหว้แก ยังยิ้ม ให้กำลังใจแกอยู่ข้างๆ เตียง สู้ๆ เดียวมันก็จะผ่านไปได้ แต่พอออกมาห้องเยี่ยมไข้ น้ำตามมันไหลพราก ทั้งเมียแก ทั้งแม่ ที่กลั้นน้ำตาไม่อยู่ ไม่เคยคิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดกับคนใกล้ตัว ไม่เคยคิดว่าโรคนี้มันร้ายแรงที่จะพรากชีวิต ของคนดีๆ คนนึงไปได้ แต่เราต้องยอมรับความจริง วันที่ทุกคนต่างรู้ว่ามันต้องมา มันก็มาถึงแล้ว
ครอบครัวได้เงินประกันจากที่แกทำไว้มาจำนวนนึง แต่ไม่มากพอที่จะเลี้ยงดูลูกๆได้ เพราะเงินประกันจากที่เดิม แกถอนออกมาทำกับที่ใหม่ เงินสะสมทรัพย์ถูกถอนออกมาใช้จ่าย ในช่วงระหว่างย้ายงาน ข่าวล่าสุดที่ได้ยิน เมียแกต้องกลับไปทำงานเลี้ยงลูก เอาลูกๆให้ญาติช่วยเลี้ยงช่วยส่งเสีย สุดท้ายทุกชีวิตต้องดิ้นรนกันไป
เรื่องนี้อยากบอกให้ทุกคนรู้ว่า การเตรียมพร้อมกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ทุกคนต้องเจอ แต่คนแต่ละคนมีวิธีรับมือกับเรื่องนี้ไว้ดีพอหรือยัง
คนๆนึงที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ต้องมาเจ็บป่วย ถ้าเขาไม่มีประกัน เขาจะจ่ายได้ไหม คิดว่าค่าใช้จ่ายโรคร้ายแรงต่อหัวเท่าไร ในโรงพยาบาลที่คุณคิดว่าเขารักษาดีพอที่จะให้คนที่คุณรักหายหรือจากไปอย่างสบาย เอาเงินตรงไหน
มาคิดคำนวณทำประกันสุขภาพ หรือเพิ่มเติมโรคร้ายแรง บางคนหมดกับค่ารักษาเป็นหลักล้าน ถึงกับครอบครัวเป็นหนี้เป็นสิน วันนี้มีตัวอย่างให้คุณเห็น หวังว่าคุณจะไม่ทำให้ผิดพลาดอีก สิ่งที่ควรนำมาคิดในการทำประกัน
- ค่ารักษาพยาบาล
- ค่าห้อง
- ค่ารักษาโรคร้ายแรง
- เงินค่ารักษาต่อเนื่องจฯลฯ
แล้วการดำเนินชีวิตหลังจากนั้นหล่ะ วันนี้อยากให้ลองคิดดูว่า ถ้าคนข้างๆคุณไม่อยู่แล้ว คุณจะอยู่อย่างไร คุณมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่จะต้องจ่ายแต่ละเดือน คุณจะใช้เวลานี้ตั้งหลักหางานใหม่ ภายในระยะเวลากี่ปี เอาตัวเลขที่คุณคิดมาดำนวณ มาตั้งเป็นทุนประกันชีวิตที่คุณควรทำไว้
ค่าใช้จ่ายรายเดือน x จำนวนเดือนที่จะตั้งหลักได้ = ทุนประกันชีวิต
วันนี้เรามามองประกันแบบเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ เพราะ ของมันต้องมี เพราะถ้าคุณไม่มี คุณต้องเป็นคนคิดเองว่าจะจัดการมันอย่างไร??? ลองตอบมาหน่อยซิค่ะ เผื่อเป็นทางออกให้เพื่อนๆ อีกหลายคน